บึงสีไฟ
สภาพโดยทั่วไป
บึงสีไฟเป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่สำคัญของภาคเหนือตอนล่างเป็นแหล่งทำการประมงที่สำคัญ แต่เนื่องจากมีน้ำน้อยและมีวัชพืช เช่น อ้อ แขม บอน ผักตบชวาและบัว ขึ้นปกคลุมโดยทั่วไป จึงทำให้บึงตื้นเขินเร็วขึ้นในปี พ.ศ. 2530 กรมประมงได้ทำการกำจัดวัชพืชในบึงสีไฟไปประมาณ 3,500 ไร่ หรือประมาณ 65% ของพื้นที่ปัจจุบัน ความลึกเฉลี่ยของบึงสีไฟประมาณ 1.50 – 2 เมตร พื้นที่ผิวดินบริเวณก้นบึงเต็มไปด้วยซากพืชเน่าเปื่อยทับถมกันจึงมีความอุดมสมบูรณ์สูงผลผลิตปลาน้ำจืดประมาณปีละ 180 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.1 ล้านบาท ประชาชนที่อาศัยอยู่รอบบึงได้ใช้น้ำเพื่อการเกษตร การประมงเพื่อการอุปโภคและบริโภคปัญหาที่สำคัญของบึงสีไฟ คือปัญหาเรื่องวัชพืชและการขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง หลังจากที่กรมประมงได้จัดตั้งสถานีประมงน้ำจืดจังหวัดพิจิตรขึ้นในปี พ.ศ. 2521 แล้วได้ทำการกำจัดวัชพืชในบึงสีไฟมาโดยตลอด โดยทั้งกำลังคนและเครื่องจักร ซึ่งนับว่าได้ผลดีมากสามารถกำจัดวัชพืชประเภทลอยน้ำได้เกือบทั้งหมด เฉพาะส่วนที่มีรากติดดินในที่ตื้นซึ่งยังคงมีเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีการเกิดขึ้นมาทดแทนในอัตราที่รวดเร็ว เช่นกัน เนื่องจากบึงสีไฟเป็นแหล่งน้ำที่อยู่ในสภาพตื้นเขินมีวัชพืชอยู่ทั่วไป กรมประมงและจังหวัดพิจิตร จึงได้ทำโครงการปรับปรุงให้เป็นแหล่งการประมงที่สำคัญและแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดพิจิตรทั้งในโครงการขุดลอกนำเอาน้ำจากคลองชลประทานเข้าสู่บึงสีไฟ เพื่อเพิ่มระดับน้ำและป้องกันการขาดน้ำในฤดูแล้ง และขุดลอกบึงให้ลึกกว่าเดิม โดยใช้เครื่องจักรกลขนาดหนักหากโครงการต่าง ๆ นี้แล้วเสร็จบึงสีไฟจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงาม และมีศักยภาพทางด้านการประมงเพิ่มขึ้นปัจจุบันบึงสีไฟเป็นบึงน้ำจืดที่มีน้ำกักเก็บตลอดปี มีความลึกเฉลี่ยประมาณ 1.5-2.0 เมตร บริเวณก้นบึงเต็มไปด้วยซากพืชเน่าเปื่อยทับถมกัน จากวิวัฒนาการทางธรรมชาติของแหล่งน้ำ ทำให้ระบบนิเวศน์ของบึงมีความสลับซับซ้อน และมีคุณค่าทางธรรมชาติด้วย
คุณค่าและความสำคัญของบึงสีไฟ
1. ด้านชนิดและปริมาณปลา จากการสำรวจของกรมประมงปี พ.ศ. 2533 พบว่าปลาที่พบในบึงสีไฟทั้งสิ้น 47 ชนิด เป็นพันธุ์ปลาที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดพิจิตร ปล่อยอีก 22 ชนิด ปริมาณปลาที่พบโดยเฉลี่ยเท่ากับ 12.28 กิโลกรัม/ปี โดยมีพันธุ์ปลาที่พบมากที่สุดคือ ปลายี่สกเทศ จากการศึกษาของคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ปี พ.ศ. 2537 พบปลาทั้งสิ้น 12 ครอบครัว จำนวน 21 ชนิด ปลาที่ปล่อยเพิ่มคือ ปลานวลจันทร์เทศ ปลานิล และปลายี่สกเทศ ปลาที่สำรวจไม่พบในปี พ.ศ.2537 และ 2538 มีปลาสร้อยลูกกล้วยและปลาพรมหัวเหม็น เป็นต้น2. ด้านพันธุ์ไม้น้ำ ( Aquatic Plant ) จากการสำรวจของคณะศึกษาพบว่า บึงสีไฟมีพันธุ์ไม้น้ำ 47 ชนิด ประกอบ พวกที่ลอยน้ำ ( Floating Type ) 7 ชนิด ได้แก่ ผักเป็ดไทย และผักตบชวา พวกที่พ้นน้ำ ( Emerged Type ) 32 ชนิด ได้แก่ อ้อ กก และพวกที่อยู่พื้นน้ำ ( Open Type ) อีก 4 ชนิด ได้แก่ สาหร่ายหางม้า และสาหร่ายหางกระรอก เป็นต้น
3. ด้านอาหารธรรมชาติชนิด แพลงก์ตอน ที่พบมากได้แก่ Closteriopsis sp. ,Scnedesmus sp.,Euglena sp.,และ Rotifer sp., ส่วนสัตว์หน้าดินที่พบมาก ได้แก่ Chironomus sp.,Pristina sp.,Branchium sp., และตัวอ่อนของแมลง (larva) ใน Order Diptera
4. ด้านแหล่งที่อยู่อาศัยของนก บึงสีไฟมีสภาพของระบบนิเวศน์ซับซ้อน และอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์น้ำและพันธุ์ไม้น้ำชนิดต่างๆ จึงมีสภาพที่เหมาะสมสำหรับเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยพักพิงของนกต่างๆซึ่งมีทั้งนกในท้องถิ่นและนกอพยพ จากการสำรวจในเบื้องต้นของคณะผู้ศึกษาพบนกจำนวนไม่น้อยกว่า 60 ชนิด
โครงการพัฒนาบึงสีไฟ